
หนังแท้แต่ละประเภทแตกต่างกันอย่างไร
Share

เมื่อพูดถึงเครื่องหนัง หลายคนอาจจะคุ้นเคยกับหนังวัวเป็นหลัก แต่จริงๆแล้ว ยังมีหนังประเภทอื่น ๆ ที่มีเอกลักษณ์และคุณสมบัติที่ต่างกัน เช่น หนังแพะ และหนังควาย ซึ่งแต่ละแบบก็มีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันไป วันนี้โฟลิโอจะพาทุกท่านมารู้จักกับหนังแต่ละประเภท พร้อมทั้งทริคเล็กๆในการดูแลเครื่องหนังให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้นกันค่ะ

- หนังแพะ (Goat Leather) หนังแพะเป็นหนังที่มีความบางแต่เต็มเปี่ยมด้วยความแข็งแรงและทนทาน และด้วยความบางของหนังแพะจึงทำให้สินค้าที่ทำจากหนังแพะมีน้ำหนักเบา ในส่วนผิวสัมผัส หนังแพะจะมีเนื้อละเอียด ลายเล็ก อีกทั้งยังมีความยืดหยุ่นสูงและทนต่อการฉีกขาดได้ดี นอกจากนี้หนังแพะยังมีส่วนผสมของลาโนลิน (lanolin) จากธรรมชาติ ซึ่งสารตัวนี้มีคุณสมบัติเหมือนขี้ผึ้งคอยเคลือบผิวหนังไว้ ทำให้หนังแพะทนน้ำได้ดีกว่าหนังชนิดอื่นๆ
ทริคดูแลหนังแพะ: ใช้ผ้านุ่มเช็ดทำความสะอาด สามารถใช้ปิโตเลียมเจลแล้วขัดเบาๆ จะช่วยเพิ่มความเงางาม และควรเก็บไว้ใน ถุงผ้า หรือ กล่องที่มีอากาศถ่ายเทได้ดี เพื่อป้องกันฝุ่นสะสม

- หนังวัว (Cow Leather) หนังวัวคือ "ตัวท็อป" ที่ถูกใช้มากที่สุด! เพราะมีความสมดุลที่ลงตัว ไม่แข็งเกินไป ไม่นิ่มเกินไป หนังวัวมีความแข็งแรง ทนทานต่อการใช้งาน เหมาะกับการใช้งานในระยะยาว ผิวสัมผัสเรียบเนียน ลายละเอียดและยังยืดหยุ่นได้ดี ใช้ได้นาน และยิ่งใช้ยิ่งสวย!
ทริคดูแลหนังวัว: ใช้ครีมบำรุงหนัง เพื่อป้องกันหนังแห้งแตก หลีกเลี่ยงการเก็บในที่อับชื้น เพราะอาจทำให้หนังขึ้นราได้ ถ้าหนังเปียกน้ำ อย่าเอาไปตากแดด ใช้ผ้าซับน้ำแล้วปล่อยให้แห้งเอง

- หนังควาย (Buffalo Leather) หนังควายเป็นหนังที่มีความหนาและแข็งแรง ทนทานสูง และทนต่อการขีดข่วนได้ดี ผิวสัมผัสมีลวดลายธรรมชาติที่ชัดเจน ให้ความรู้สึกดิบและแข็งแรง ให้ลุคที่ดูดิบ เท่ และมีสไตล์วินเทจ แต่หนังควายจะมีน้ำหนักมากกว่าหนังวัวและหนังแพะ
ทริคดูแลหนังควาย: หนังควายมีพื้นผิวที่หยาบกว่าหนังประเภทอื่น ควรใช้แปรงขนนุ่มปัดฝุ่นแทนการใช้ผ้าถู ใช้น้ำยาเคลือบหนังแบบเฉพาะ เพื่อคงความเงางามและลดรอยขีดข่วน
การเลือกใช้หนังแต่ละประเภทขึ้นอยู่กับความต้องการและลักษณะการใช้งาน




